iPhone
สิ่งที่ Apple ต้องแก้ปัญหาหากจะตัดพอร์ตชาร์จทิ้งบน iPhone
ในวันนี้เราจึงจะมาแบ่งปันข้อมูลกันว่าหาก Apple ต้องการที่จะสร้าง iPhone ไร้พอร์ตโดยการตัดพอร์ต Lightning ออกไปนั้นพวกเขาต้องพัฒนาอะไรขึ้นมาทดแทนบ้าง
By
ตั้งแต่ Apple ตัดช่องเสียบหูฟังออกบน iPhone 7 ในปี 2016 ก็ทำให้ทุกๆคนรู้กันในทันทีว่าไม่ช้าก็เร็ว Apple ต้องตัดพอร์ตชาร์จทิ้งแน่ๆและการเปิดตัว MagSafe บน iPhone 12 ยิ่งเป็นการตอกย้ำเข้าไปใหญ่ว่า Apple เอาจริงๆแน่กับการกับตัดพอร์ตชาร์จทิ้ง
อย่างไรก็ตามเมื่อเราลองวิเคราะห์ดูแล้วเอาจริงๆการตัดพอร์ตชาร์จอย่าง Lightning ทิ้งนั้นมันไม่ได้ง่ายเหมือนกับช่องเสียบหูฟังเพราะนอกจากมันจะเอาไว้ชาร์จแล้วพอร์ต Lightning ยังสามารถทำหน้าที่อื่นๆได้ด้วย
ในวันนี้เราจึงจะมาแบ่งปันข้อมูลกันว่าหาก Apple ต้องการที่จะสร้าง iPhone ไร้พอร์ตโดยการตัดพอร์ต Lightning ออกไปนั้นพวกเขาต้องพัฒนาอะไรขึ้นมาทดแทนบ้าง
ชาร์จไร้สายที่เร็วกว่าหรือเทียบเท่า
สิ่งแรกที่ Apple ต้องทำเลยคือต้องทำให้ iPhone สามารถชาร์จไร้สายได้เร็วขึ้นกว่าในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการชาร์จไร้สายผ่าน MagSafe หรือไม่ก็ตาม
ในปัจจุบันการชาร์จไร้สายของ Apple ผ่าน MagSafe นั้นมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 15W เท่านั้นและจะน้อยลงเหลือเพียงแค่ 12W ใน iPhone 12 mini และ iPhone 13 mini โดยแม้มันจะดูเพียงพอแล้วแต่มันเหมือนเป็นการดาวน์เกรด iPhone ลงหากตัดการชาร์จด้วยพอร์ต Lightning ออกเพราะในตอนนี้มันทำได้สูงสุดที่ 27W เลยทีเดียว
เอาจริงๆที่ผ่านมาดูเหมือน Apple จะไม่สนใจที่จะอัดระบบชาร์จเร็วเข้ามาเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆที่ตอนนี้ไปเกินกว่า 50W กันหมดแล้วและเห็นมีข่าวว่าจะเป็นเกิน 100W ในเร็วๆนี้ด้วยก็ได้แต่หวังว่า Apple จะทำให้การชาร์จไร้สายสามารถชาร์จได้เร็วเท่าการชาร์จแบบมีสายด้วย Lightning ในปัจจุบันก็พอแล้ว
ความร้อนระหว่างชาร์จ
อีกหนึ่งปัญหาที่จะเกิดขึ้นและ Apple จะต้องแก้ด้วยหากตัดพอร์ตชาร์จทิ้งและเปลี่ยนเป็นการชาร์จไร้สายทั้งหมดนั้นคือเรื่องของความร้อนเพราะการชาร์จไร้สายนั้นจะมีความร้อนสะสมที่มากกว่าการชาร์จแบบมีสายอยู่แล้ว
เชื่อว่าผู้ใช้งานทุกคนคงจะเคยใช้งาน iPhone ไปและชาร์จไปอย่างแน่นอนและจะพบว่าบางทีเครื่องก็ร้อนขึ้นมากจนต้องหยุดเล่นไปก่อนเลยทีเดียว ยิ่งหากใครที่เล่นเกมหนักๆอย่างพวก ROV, PUBG หรือ Free Fire ขณะชาร์จไปละก็คงจะพบอาการเครื่องร้อนกันเป็นธรรมาดาเลยแหละ
ซึ่งแน่นอนการชาร์จไร้สายนั้นจะทำให้ตัวเครื่องมีความร้อนสะสมที่มากขึ้นกว่าการชาร์จแบบมีสายอยู่แล้วเนื่องจากการสูญเสียพลังงานที่มากขึ้นในรูปแบบของความร้อน ซึ่งหาก Apple ต้องการจะตัดพอร์ตชาร์จทิ้งพวกเขาก็ควรจะต้องพัฒนาระบบระบายความร้อนให้ดีขึ้นด้วย
การถ่ายโอนข้อมูล
พอร์ต Lightning นอกจากที่จะเอาไว้ชาร์จแล้วยังสามารถไว้ถ่ายโอนข้อมูลระหว่าง iPhone ไปสู่ Mac หรือ PC ได้อีกด้วย ซึ่งหาก Apple ต้องการจะตัดมันทิ้งและเปลี่ยนไปใช้การชาร์จไร้สายอย่างเดียวพวกเขาก็จะต้องนำเสนอวิธีการถ่ายโอนข้อมูลแบบใหม่ด้วย
โดยเราอยากให้ผู้ใช้งานลองคิดดูง่ายๆว่าหากผู้ใช้งานต้องการที่จะโอนถ่ายวีดีโอ 4K ที่ถ่ายบน iPhone ไปยัง Mac หรือ PC โดยไม่มีระบบการโอนถ่ายข้อมูลที่ดีพอ ผู้ใช้งานจะต้องรอนานขนาดไหนกว่าที่จะย้ายวีดีโอดังกล่าวได้เสร็จ
นี้ยังไม่รวมถึงกรณีที่ iPhone มีปัญหาแต่เราไม่สามารถ Restore เครื่องได้ผ่าน Mac หรือ PC ของเราเนื่องจากไม่มีพอร์ตอีกนะ ลองคิดดูสิว่าการต้องไป Apple Store ทุกครั้งเมื่อ iPhone มีปัญหามันจะวุ่นวายขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม Apple เหมือนจะมีทางออกกับเรื่องนี้แล้วเพราะบน Apple Watch Series 7 พวกเขามีระบบการถ่ายโอนข้อมูลไร้สายที่ความถี่ 60.5GHz ทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ประมาณ 480 Mbps หรือพอๆกับ Lightning ในปัจจุบันแต่มีข้อแม้คือการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวในปัจจุบันต้องใช้เครื่องมือพิเศษจาก Apple เท่านั้น
สรุป
และนี้คือสิ่งหลักๆที่ Apple ต้องพัฒนาขึ้นมาให้ได้ก่อนหากพวกเขาต้องการที่จะตัดพอร์ตชาร์จทิ้งและเหลือไว้แต่ระบบการชาร์จไร้สาย ซึ่งเอาจริงๆมันยังมีอีกหลายอย่างที่พวกเขาต้องทำอีกเช่น CarPlay หรือการทำให้การชาร์จสูญเสียพลังงานให้น้อยลงกว่านี้
โดยเมื่อเรามาคิดๆดูแล้วหากมันเป็นงานยากจริงๆ Apple ก็ไม่จำเป็นต้องตัดพอร์ตชาร์จอย่าง Lightning ทิ้งก็ได้ขอเพียงแค่เปลี่ยนเป็น USB-C แทนก็พอ