iPad Pro
เปรียบเทียบ iPad Pro ชิป M4 กับ iPad Pro ชิป M2 อัปเกรดดีไหม ซื้อรุ่นเก่าแทนคุ้มกว่าไหม?
iPad Pro ใหม่มาพร้อมกับชิป M4 โดยดีไซน์รวมๆไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักแค่อาจทำให้ใครหลายสงสัยว่าควรเปลี่ยนไหม ในวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้ดูกัน
By
iPad Pro ใหม่มาพร้อมกับชิป M4 ที่แม้แต่ Mac ก็ยังไม่ได้ใช้หลัง Apple ไม่ได้อัปเกรด iPad อะไรใหม่เลยในปี 2023 โดยดีไซน์รวมๆอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักแต่มันมาพร้อมกับจอ OLED ใหม่และตัวเครื่องบางลงจึงอาจทำให้ใครหลายๆคนที่ถือ iPad Pro ชิป M2 อยู่สงสัยว่าควรเปลี่ยนดีไหม มันคุ้มหรือเปล่า ในวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้ดูกัน
iPad Pro ชิป M4 vs iPad Pro ชิป M2
iPad Pro ชิป M4 ขนาด 13 นิ้ว | iPad Pro ชิป M4 ขนาด 11 นิ้ว | iPad Pro ชิป M2 ขนาด 12.9 นิ้ว | iPad Pro ชิป M2 ขนาด 11 นิ้ว | |
ชิป | M4 | M2 | ||
CPU | 9-คอร์ และ 10-คอร์ สำหรับรุ่น 1TB และ 2TB | 8-คอร์ | ||
GPU | 10-คอร์ | 10-คอร์ | ||
RAM | 8GB และ 16GB สำหรับรุ่น 1TB และ 2TB | 8GB และ 16GB สำหรับรุ่น 1TB และ 2TB | ||
หน้าจอ | จอภาพ Ultra Retina XDR (OLED 2 ชั้น) | จอภาพ Liquid Retina XDR (Mini-LED) | จอภาพ Liquid Retina | |
ความละเอียดหน้าจอ | 2752 x 2064 พิกเซล 264 ppi | 2420 x 1668 พิกเซล 264 ppi | 2732 x 2048 พิกเซล 264 ppi | 2388 × 1668 พิกเซล 264 ppi |
ความสว่างหน้าจอ | SDR: 1,000 นิต XDR: 1,000 นิต HDR ระดับสูงสุด: 1,600 นิต | SDR: 600 นิต XDR: 1,000 นิต HDR ระดับสูงสุด: 1,600 นิต | 600 นิต | |
กระจกผิวนาโน | เพิ่ม 4,000 บาทเฉพาะ 1TB และ 2TB | X | ||
กล้องหลัง | กล้องไวด์ 12MP (ƒ/1.8) | กล้องไวด์ 12MP (ƒ/1.8) กล้อง Ultra-Wide 10MP (ƒ/2.4) | ||
กล้องหน้า | กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP (ƒ/2.4) | กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP (ƒ/2.4) | ||
ลำโพง | ลำโพง 4 ตัว ไมโครโฟน 4 ตัว | ลำโพง 4 ตัว ไมโครโฟน 5 ตัว | ||
ซิมการ์ด | eSIM เท่านั้น | nano SIM และ eSIM | ||
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 6E Bluetooth 5.3 | Wi-Fi 6E Bluetooth 5.3 | ||
Apple Pencil | Apple Pencil Pro Apple Pencil (USB-C) | Apple Pencil 2 Apple Pencil (USB-C) | ||
ขนาด | กว้าง 215.5 มม. ยาว 281.6 มม หนา 5.1 มม. | กว้าง 177.5 มม. ยาว 249.7 มม หนา 5.3 มม. | กว้าง 214.9 มม. ยาว 280.6 มม หนา 6.4 มม. | กว้าง 178.5 มม. ยาว 247.6 มม หนา 5.9 มม. |
น้ำหนัก | รุ่น Wi-Fi 579 กรัม รุ่น Wi-Fi + Cellular 582 กรัม | รุ่น Wi-Fi 444 กรัม รุ่น Wi-Fi + Cellular 446 กรัม | รุ่น Wi-Fi 682 กรัม รุ่น Wi-Fi + Cellular 685 กรัม | รุ่น Wi-Fi 466 กรัม รุ่น Wi-Fi + Cellular 470 กรัม |
ความจุ | 256GB 512GB 1TB 2TB | 128GB 256GB 512GB 1TB 2TB | ||
แบตเตอรี่ | 38.99 วัตต์-ชั่วโมง ท่องเว็บผ่าน Wi‐Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง | 31.29 วัตต์-ชั่วโมง ท่องเว็บผ่าน Wi‐Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง | 40.88 วัตต์-ชั่วโมง ท่องเว็บผ่าน Wi‐Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง | 28.65 วัตต์-ชั่วโมง ท่องเว็บผ่าน Wi‐Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง |
สี | เงิน ดำสเปซแบล็ค | เงิน เทาสเปซเกรย์ |
ประสิทธิภาพ
สำหรับความแตกต่างแรกที่เห็นได้ชัดที่สุดคือชิป M4 บน iPad Pro รุ่นใหม่ โดยทาง Apple เผยว่า CPU ของมันแรงว่า iPad Pro ชิป M2 ถึง 1.5 เท่า, GPU สามารถเรนเดอร์งานได้เร็วกว่า 4 เท่าและมี Memory Bandwidth ถึง 120GB/s เทียบกับ 100GB/s บนชิป M2
ตัวชิป M4 ยังรองรับการเล่นไฟล์ 8K H.264, HEVC, ProRes และ ProRes RAW ในระดับฮาร์ดแวร์อีกด้วยทำให้จะกินพลังงานต่ำลงเมื่อเล่นไฟล์ดังกล่าว
นอกจากนี้ตัวชิป M4 ยังมี Neural Engine ที่สามารถประมวลผลได้สูงสุดถึง 38 ล้านล้านรายการต่อวินาทีเพื่อเตรียมรองรับการทำงานด้าน AI ที่ Apple เตรียมเปิดตัวในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ตามชิป M2 บน iPad Pro รุ่นเก่ามันก็ไม่ได้แย่เลยทีเดียวเนื่องจากเราเชื่อว่าตัวชิปสามารถจัดการกับแอประดับโปรที่หลายๆคนใช้งานอยู่ในปัจจุบันได้ดีอยู่แล้วและตัว M4 ก็อาจไม่ได้ช่วยให้การทำงานของเราเร็วขึ้นแบบเห็นผลขนาดนั้นเพราะสุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ยังคงใช้ iPadOS เหมือนๆกัน
หน้าจอ
ในส่วนของหน้าจอก็เป็นการอัปเกรดหลักอีกส่วนหนึ่งจาก iPad Pro ชิป M2 เหมือนกัน โดย iPad Pro ชิป M4 มาพร้อมกับหน้าจอ Ultra Retina XDR ที่เป็นการนำจอ OLED 2 ชั้นมาวางซ้อนกัน ในขณะที่ iPad Pro ชิป M2 เป็นแค่จอ LCD ธรรมดาเท่านั้นในรุ่น 11 นิ้วและจอ mini-LED ในรุ่น 13 นิ้ว
โดยคุณสมบัติของตัว OLED นั้นดีกว่าจอชนิดอื่นๆเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเนื่องจากแต่ละเม็ดพิเซลจะมีแหล่งกำเนิดแสงเป็นของตัวเองโดยเมื่อเม็ดไหนไม่ใช้งานก็จะไม่มีการเปล่งแสงออกมาทำให้เราจะได้สีดำที่ดำสนิทและมีรายละเอียดของสีภาพที่ดีขึ้นต่างจากจอบน iPad Pro ชิป M2 ที่สีดำยังออกเทาๆนิดๆ
นอกจากนี้ตัว iPad Pro ชิป M4 ความจุ 1TB และ 2TB ยังมีตัวเลือกกระจกผิวนาโนเพื่อลดแสงสะท้อนให้เลือกด้วยโดยเพิ่มตัง 4,000 บาททำให้สามารถเอาไปใช้งานกลางแจ้งได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่ชอบหน้าจอสวยๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเรียกได้ว่า iPad Pro ชิป M4 ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าอัปเกรดขึ้นมาเลยทีเดียวแม้แต่กับผู้ที่ใช้งาน iPad Pro ชิป M2 อยู่
ขนาดและน้ำหนัก
Apple โฆษณา iPad Pro ชิป M4 ใหม่ไว้ว่ามันคือ “ผลิตภัณฑ์ Apple ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา” โดยตัวขนาด 13 นิ้วมีความบางอยู่ที่ 5.1มม. และตัว 11 นิ้วอยู่ที่ 5.3มม. ที่ทาง Apple เผยว่ามันบางยิ่งกว่า iPad nano ที่ 5.4มม. เสียอีก
นอกจากความบางแล้วตัว iPad Pro ชิป M4 ก็ยังเบาลงด้วยกับน้ำหนักเพียงแค่ 579-582 และ 444-446 กรัมบน iPad Pro 13 นิ้วและ 11 นิ้วตามลำดับ เบาลงกว่าเดิมสูงสุดถึง 103 กรัมเลยทีเดียว
สิ่งที่โดนตัดออกบนรุ่น iPad Pro ชิป M4
iPad Pro ชิป M4 แม้จะมีหลายๆอย่างที่ Apple อัปเกรดให้ดียิ่งขึ้นแต่ก็มีบางอย่างที่ถูกตัดออกไปเหมือนกันเช่นกล้องที่มันมาพร้อมกับกับไวด์ 12MP เพียงตัวเดียวเท่านั้นตัดกล้อง Ultra-Wide ออก
Apple ไม่ได้เผยเหตุผลว่าเพราะอะไรแต่คงเป็นเพราะไม่มีใครใช้ iPad ถ่ายรูปหรือวีดีโอมากนักเนื่องจากขนาดของมันและคุณภาพที่สู้ iPhone หรือสมาร์ทโฟนที่เรามีอยู่ไม่ได้
นอกจากเรื่องกล้องแล้วไมโครโฟนก็โดนเช่นกันโดยตัว iPad Pro ชิป M4 มาพร้อมกับไมโครโฟนเพียงแค่ 4 ตัวเท่านั้นเทียบกับ 5 ตัวบนรุ่นก่อนแต่ทาง Apple ยังยืนยันว่ามันจะยังคงเก็บเสียงได้ในระดับสตูดิโอเหมือนเดิม
Apple Pencil
iPad Pro ชิป M4 มาพร้อมกับ Apple Pencil Pro ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นรองรับการบีบเพื่อเรียกเมนูเครื่องมือ, รองรับการสั่นเมื่อเราบีบ, มี Gyroscope ที่รับรู้การหมุนของปากกาและรองรับการค้นหาปากกาผ่าน Find My ด้วย
สำหรับใครที่เป็นสายวาดรูปแบบจริงจังอยู่แล้วก็น่าสนใจอัปเกรดเป็น iPad Pro ชิป M4 เหมือนกันเนื่องจากจะได้ฟีเจอร์เทพๆจากปากกา Apple Pencil Pro เพราะมันไม่สามารถใช้งานกับ iPad Pro รุ่นเก่าได้
สรุปควรอัปเกรดดีไหม ซื้อรุ่นเก่าคุ้มกว่าไหม?
สำหรับใครที่ถือ iPad Pro ชิป M2 อยู่และต้องการจะเปลี่ยนเพราะอยากได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นทางเราอาจจะยังไม่แนะนำนักเนื่องจากแม้ชิป M4 จะแรงขึ้นก็จริงแต่ตัว M2 ก็ในปัจจุบันก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไรเลยรวมถึงยังโดนกั๊กประสิทธิภาพจาก iPadOS ด้วย รอดู iPadOS ใหม่ที่จะเปิดตัวในงาน WWDC 2024 ในเดือนมิถุนายนว่า iPadOS จะมีอะไรใหม่ๆไหมแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ยังได้
แต่หากใครมีจอ OLED และ Apple Pencil Pro เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการตัดสินใจอัปเกรด ทางเราก็บอกได้เลยว่าในส่วนนี้มันดูคุ้มค่ากับการที่จะอัปเกรดจริงๆ
สุดท้ายนี้หากใครที่คิดจะซื้อรุ่นเก่าแทนทางเราแนะนำว่าหากมีเงินเหลือพอที่จะซื้อ iPad Pro ชิป M4 ไหวก็ให้เลือกเป็นตัวนี้ดีกว่าเนื่องจากจะได้ทั้งชิปใหม่ หน้าจอที่ดีขึ้นและการพกพาที่สะดวกที่สามารถใช้งานไปได้อีกยาวๆแต่ใครที่คิดว่าไม่ไหวจริงๆตัว iPad Pro ชิป M2 ในปัจจุบันก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดูดีไม่น้อยยิ่งหากได้ส่วนลดต่างๆมาช่วยอีก