Apple ต้องลดการผลิต iPhone 13 ลงถึง 10 ล้านเครื่อง! หลังประสบปัญหาขาดแคลนชิป

แม้ Apple จะใหญ่ขนาดไหนแต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นปัญหาขาดแคลนชิปที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ดี โดยล่าสุดทาง Bloomberg ออกมารายงานว่า Apple จำเป็นต้องลดการผลิต iPhone 13 ลงถึง 10 ล้านเครื่องเนื่องจากปัญหาดังกล่าวเลยทีเดียว

ก่อนหน้านี้มีรายงานออกมาว่า Apple ต้องการที่จะผลิต iPhone 13 ให้ได้ประมาณ 90 ล้านเครื่องก่อนที่จะสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน Apple ได้แจ้งไปยังซัพพลายเออร์ต่างๆของตนแล้วว่าน่าจะผลิตได้น้อยกว่านั้นประมาณ 10 ล้านเครื่องเนื่องจาก Broadcom Inc. และ Texas Instruments Inc. ไม่สามารถจัดหาส่วนประกอบสำหรับ iPhone 13 ได้เพียงพอ

โดยทาง Broadcom ที่เป็นคนจัดหาชิ้นส่วนเกี่ยวกับการเชื่อมต่อไร้สายให้กับ Apple และ Texas Instruments ที่เป็นคนจัดหาชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้พลังงานจอ OLED กำลังประสบปัญหาขาดแคลนส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตอยู่ทำให้ไม่สามารถส่งให้ตามกำหนดเดิมได้

ปัจจุบันในประเทศไทย iPhone 13 บางรุ่นบางสีก็ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 4-5 อาทิตย์เข้าไปแล้ว ซึ่งคาดว่าในอนาคตหาก iPhone 13 ยังมีความต้องการสูงอยู่ก็อาจจะทำให้มันยิ่งขาดตลาดเข้าไปใหญ่ก็ได้

ก่อนหน้านี้ Tim Cook เคยออกมาเตือนแล้วว่า Apple อาจประสบปัญหาการขาดแคลนชิปในช่วงปลายปีนี้ โดยแม้ว่า Apple จะเป็นบริษัทที่รับมือได้ดีที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างไรก็ตามก็ยังหนีไม่พ้นมันอยู่ดี

ในปัจจุบันโลกเรากำลังประสบปัญหาการขาดแคลนซิลิกอนที่เป็นส่วนประกอบของการผลิตชิปอยู่อันเนื่องมาจากโควิด-19 ที่ทำให้โรงงานต่างๆต้องหยุดชะงัก รวมถึงล่าสุดที่จีนซึ่งเป็นประเทศสำคัญในการผลิตซิลิกอนได้สั่งลดการผลิตลงเป็นจำนวนมากเพื่อลดการใช้พลังงานภายในประเทศด้วย

ที่มา – Bloomberg