Connect with us

iPhone

วิเคราะห์: เพราะอะไร iPhone mini ถึงจะเปิดตัวในปีนี้เป็นปีสุดท้าย?

ข่าวลือหลายๆสำนักที่เผยออกมาในช่วงนี้ได้เห็นพ้องต้องกันว่า iPhone 13 mini จะเป็นรุ่น mini รุ่นสุดท้ายแล้วก่อนที่ Apple จะเลิกวางจำหน่ายไป

ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดเครื่องจำลองของซีรีส์ iPhone 13 โผล่ออกมา โดยมันเผยให้เห็นถึง iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max

อย่างไรก็ตามจากข่าวลือหลายๆสำนักที่เผยออกมาในช่วงเร็วๆนี้ได้เห็นพ้องต้องกันว่า iPhone 13 mini จะเป็นรุ่น mini รุ่นสุดท้ายแล้วก่อนที่ Apple จะเลิกวางจำหน่ายไป

แล้วเพราะอะไรทำไม iPhone mini ถึงมีอายุเพียงแค่ 2 generations เท่านั้น เราจะมาลองวิเคราะห์ให้ฟังกันในบทความนี้ครับ

Apple กับ iPhone หน้าจอขนาดเล็ก

Apple เริ่มขยายหน้าจอ iPhone ครั้งแรกในปี 2012 ใน iPhone 5 โดยเป็นการเพิ่มขนาดหน้าจอจาก 3.5 นิ้ว เป็น 4 นิ้ว ซึ่งก็ยังถือว่าเล็กอยู่ดีเมื่อเทียบกับค่ายมือถืออื่นๆในสมัยนั้น

อย่างไรก็ตาม Apple ได้เข้าสู่ตลาดมือถือหน้าจอใหญ่อย่างจริงจังในปี 2014 ใน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่มีหน้าจอขนาด 4.7 และ 5.5 นิ้วตามลำดับ และตอนนี้ก็มีขนาดหน้าจอ iPhone สูงสุดที่ 6.7 นิ้วใน iPhone 12 Pro Max

ในตอนนั้น Apple ทราบว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียยอดขายไปหากไม่ขยายหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นเนื่องจากทุกบริษัทรวมถึงผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่มากขึ้นแล้ว

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า Apple จะเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนจอใหญ่อย่างเต็มตัวแต่ก็ยังไม่ทิ้งสมาร์ทโฟนหน้าจอเล็กไป โดย Apple มีการเปิดตัว iPhone SE รุ่นแรกที่ใช้บอดี้ของ iPhone 5S และ iPhone SE รุ่นที่ 2 ที่ใช้บอดี้ของ iPhone 8 ที่มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 4.7 นิ้ว ซึ่งถือได้ว่ามันเล็กไปแล้วในปัจจุบันโดยมันถูกวางให้เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางเท่านั้น

แต่ในปีที่ผ่านมา Apple ได้ทดลองแนวทางใหม่สำหรับ iPhone หน้าจอขนาดเล็กเข้ามาคือ iPhone 12 mini, ซึ่งแนวทางนี้แตกต่างจาก iPhone SE เนื่องจากมันเป็นการนำ iPhone 12 มาย่อส่วนลงโดยมีสเปคและความสามารถเทียบเท่ากับ iPhone 12 รุ่นปกติเลย

เกิดอะไรขึ้นกับ iPhone 12 mini?

ถึงแม้ว่า iPhone SE จะไม่ได้ถูกวางตำแหน่งไว้ให้เป็นเรือธงแต่มันก็มักจะทำยอดขายได้ดีในหลายประเทศเสมอ แล้วเมื่อเทียบกับ iPhone 12 mini ล่ะ?

ในขณะที่ iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ทำยอดขายได้อย่างน่าประทับใจแต่เราไม่สามารถพูดแบบเดียวกันกับ iPhone 12 mini ได้, แม้ว่า Apple จะไม่เปิดเผยตัวเลขยอดขายของ iPhone รุ่นต่างๆแต่นักวิเคราะห์และบริษัทวิจัยต่างพากันบอกว่ายอดขายของ iPhone 12 mini นั้นไม่ได้ดีเอาซะเลย

โดยบริษัทวิจัยเผยออกมาว่า iPhone SE รุ่นที่ 2 มียอดขายคิดเป็น 22% ของยอดขาย iPhone ทั้งหมดในสหรัฐฯในช่วงเปิดตัว แต่ iPhone 12 mini มียอดขายเพียงแค่ 6% เท่านั้น

หากถามหาเหตุผลแล้วก็คงจะเป็นเพราะว่าราคาของพวกมันนั้นเองโดย iPhone SE มีราคาอยู่ที่ 14,900 บาท แต่ iPhone 12 mini มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,900 บาท เนื่องจากมันใช้สเปคเดียวกับ iPhone 12 นั่นเอง

โดยเมื่อเราพูดถึงสมาร์ทโฟนราคาถูกอย่าง iPhone SE เชื่อได้ว่าคนที่ซื้อย่อมรู้อยู่แล้วว่ามันจะมีการตัดฟีเจอร์บางอย่างออกเพื่อให้มันราคาถูกลง แต่ถ้าหากต้องจ่ายเงินถึง 25,900 บาท ผู้คนก็ย่อมคาดหวังมากกว่าอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการรับชมวิดีโอ เล่นเกมหรือแอปต่างๆได้เต็มตากว่า รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานด้วย

และด้วยเหตุผลที่ว่ามานี้เองทำให้ผู้คนเลือกที่จะเพิ่มเงินเพื่อให้ได้ iPhone ที่จอใหญ่กว่า iPhone 12 mini ทำให้มันมียอดขายที่ไม่ดีนัก

แล้วรุ่น mini จะยังมีอนาคตอยู่ไหม

ในระยะสั้นมันยังมีอนาคตอยู่, โดยถึงแม้ว่า iPhone 12 mini จะมียอดขายที่ไม่น่าประทับใจนัก แต่นักวิเคราะห์หลายๆคนก็ออกมากล่าวว่าในปีนี้ Apple จะยังคงเปิดตัว iPhone 13 mini อยู่

อย่างไรก็ตามคาดว่าซีรี่ส์ iPhone 13 จะเป็นซีรี่ส์สุดท้ายแล้วที่มาพร้อมกับรุ่น mini เพราะ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ที่ค่อนข้างแม่นยำเผยว่าในปี 2022, Apple จะยังคงมี iPhone 4 รุ่นเหมือนเดิมแต่จะแบ่งเป็นรุ่นธรรมดาและ Pro ในขนาดหน้าจอ 6.1 และ 6.7 นิ้วอย่างละรุ่น

ที่มา – 9to5Mac

Click to comment
guest
0 Comments
Most Voted
Newest Oldest
Inline Feedbacks
View all comments
To Top