
ประวัติ Jack Dorsey จากเริ่มต้นสู่วันที่เขาลงจากตำแหน่ง CEO ของ Twitter
เมื่อเร็วๆนี้หลายๆคนคงจะเห็นชื่อของ Jack Dorsey ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างตามหน้าโซเชียลมีเดียต่างๆของตัวเองหลังจากที่เขาประกาศลงจากตำแหน่ง CEO ของ Twitter ไป
By
เมื่อเร็วๆนี้หลายๆคนคงจะเห็นชื่อของ Jack Dorsey ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างตามหน้าโซเชียลมีเดียต่างๆของตัวเองหลังจากที่เขาประกาศลงจากตำแหน่ง CEO ของหนึ่งในบริษัทโซเชียลมีเดียที่มีอิทธิพลมากที่สุดบริษัทหนึ่งของโลกอย่าง Twitter ไป
โดยเชื่อได้ว่าหลายๆคนคงจะเคยได้ยินชื่อเขามาบ้างแน่นอนเพียงแต่อาจจะไม่ได้สนใจรายละเอียดของตัวเขามากนัก ในบทความนี้เราจึงขออาสาพาไปทำความรู้จักเขาไม่ว่าจะเป็นประวัติของเขา, แนวคิดในงานทำงาน รวมถึงอนาคตของ Twitter ต่อไปด้วย
Jack Dorsey
Jack Dorsey เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนปี 1976 ในเมือง St. Louis สหรัฐอเมริกา พ่อของเขาคือ Tim Dorsey ทำงานเป็นวิศวกรเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ ส่วนแม่เขาคือ Marcia Dorsey เป็นแม่บ้าน
Dorsey สนใจในคอมพิวเตอร์และการเขียนโปรแกรมมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว โดยเมื่อตอนที่เขาอายุได้ 15 ปีและกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียน Bishop Dubourg High School นั้นตัวเขาได้เขียนโปรแกรม Open Source ที่เกี่ยวกับการกำหนดเส้นทางจัดส่งขึ้นมาโปรแกรมหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันโปรแกรมนั้นยังมีบริษัทบางบริษัทใช้งานมันอยู่เลย

เมื่อเขาโตขึ้นและเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย Missouri ในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นเขาได้เข้าไปแฮกบริษัท Dispatch Management Service ที่เป็นบริษัทเมสเซนเจอร์ ส่งพัสดุหรือเอกสารใน New York เพียงเพื่อจะส่งช่องโหว่และการแก้ไขไปสำหรับการสมัครงานเท่านั้น
แม้การกระทำของเขาจะดูบ้าบิ่นแต่มันกลับทำให้เขาได้รับงานที่ Dispatch ขึ้นจริงๆ ซึ่งทำให้ Dorsey จำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่ New York แทนและลาออกจากมหาวิทยาลัยเก่าเพื่อมาเรียนต่อที่ New York University แต่สุดท้ายเขาก็ลาออกมาอยู่ดีเพราะเชื่อว่าการทำงานจะให้ประสบการณ์และความรู้ที่ดีกว่าการเรียน
อย่างไรก็ตาม Dorsey ก็ทำงานกับ Dispatch ได้ถึงปี 2002 เท่านั้นเนื่องจากเขาดันไปงัดข้อกับผู้บริหารจนถูกไล่ออก ซึ่งทำให้เขาต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ St.Louis ก่อนสักพักก่อนที่จะไปอยู่ที่ San francisco ในบ้านของ Greg Kidd ชายผู้รับเขาเข้าทำงานที่ Dispatch แรกกับการเลี้ยงดูให้กับ Kidd ต่อไป
ในปี 2005 Evan Williams เจ้าของเว็ป Blogger ที่ตอนนั้นเพิ่งขายบริษัทให้กับ Google ไปกำลังเปิด Start Up ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ Podcast นามว่า Odeo อยู่ก็ได้พบกับ Jack Dorsey และชวนเขาเข้ามาทำงานในฐานะโปรแกรมเมอร์ของบริษัทด้วย

อย่างไรก็ตาม Odeo กลับประสบปัญหาขึ้นเนื่องจากฐานผู้ใช้งานไม่เพียงพอบวกกับในขณะนั้น Apple ได้ปรับปรุง iTunes ใหม่โดยการเพิ่ม Podcast เข้าไปทำให้สถานการณ์ของ Odeo หนักขึ้นไปอีกแต่แทนที่จะปิดบริษัททิ้ง Williams ตัดสินใจจัดการแข่งขันไอเดียของพนักงานขึ้นและแน่นอน Twitter ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในตอนนั้นนั่นเอง
จุดเริ่มต้นของ Twitter
โดยในตอนนั้นแนวคิดของ Dorsey ค่อนข้างจะเรียบง่ายคือเขาต้องการที่จะสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาแพลตฟอร์มหนึ่งเพื่อที่จะอัปเดตข้อความต่างๆไม่เกิด 140 ตัวอักษรเหมือนกับ SMS ให้กับผู้ติดตามของเขาเท่านั้นและแนวคิดนี้ Dorsey และทีมใช้เวลาในการสร้างมันขึ้นมาแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น
หลังจากสร้างมันขึ้นมาสำเร็จแล้วในตอนแรก Dorsey ตั้งชื่อมันว่า Twttr และในวันที่ 22 มีนาคม 2006 เขาก็ได้ทวีตข้อความแรกของโลกว่า “Just setting up my Twttr” ซึ่งในตอนนั้นมันยังไม่เปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการเลย โดยมันเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกทีช่วงประมาณ 3 เดือนให้หลังในเดือนมิถุนายนและเปลี่ยนชื่อเป็น Twitter
just setting up my twttr
— jack⚡️ (@jack) March 21, 2006
อย่างไรก็ตามในตอนนั้นผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter อย่าง Evan Williams, Biz Stone และ Noah Glass กลับมองว่า Twitter นั้นไร้สาระและไม่น่าจะประสบความสำเร็จได้แต่อย่างไรก็ตาม Dorsey ไม่คิดแบบนั้นและเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
โดยหลังจาก Twitter เปิดตัวได้ไม่ถึง 1 เดือน Jack Dorsey ก็ได้รับจดหมายขอให้ไปร่วมรับประทานอาหารกับผู้ใช้งานท่านหนึ่งนามว่า Fed Wilson ซึ่งทั้งคู่ใช้เวลาคุยกันไม่นานนักแต่เมื่อ Dorsey กลับถึงบริษัทแล้วเขาก็พบว่า Wilson ให้เช็คจำนวน 5 แสนดอลลาร์ (~16 ล้านบาท) สำหรับเป็นเงินทุน Twitter แต่ต้องแลกมาด้วยการลาออกจาก Odeo
แน่นอน Dorsey คว้าดีลนี้ไว้และประกาศลาออกจาก Odeo ทันทีทำให้ในปี 2007 เขาได้กลายเป็น CEO ของ Twitter อย่างเต็มตัวทันทีในอายุเพียงแค่ 31 ปีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเพราะการที่เขาอายุน้อยนี้แหละก็เป็นข้อเสียเช่นกันเพราะเขาไม่มีประสบการณ์ในการบริหารบริษัทขนาดใหญ่เลยทำให้ในปี 2008 เขาถูกปลดออกจากตำแหน่ง CEO แต่ยังคงอยู่ในบอร์ดบริหารต่อไปแต่สุดท้ายในปี 2015 เขาก็กลับมารับตำแหน่ง CEO อีกครั้งก่อนที่จะเพิ่งประกาศลาออกมาไปอย่างที่เห็นกันล่าสุด
ในความเป็นจริงแล้ว Jack Dorsey ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Twitter เพียงบริษัทเดียวด้วยเพราะในตอนที่เขาลงจากตำแหน่ง CEO ในปี 2008 นั้น Dorsey ได้ก่อตั้งอีกบริษัทหนึ่งขึ้นมาอย่าง Square ที่เป็นบริษัทตัวกลางสำหรับการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตในกรณีที่ร้านค้าเล็กๆยังไม่มีเครื่องรับบัตรเครดิต

แนวคิดและวิธีการบริหารงาน
หากใครคิดว่า Jack Dorsey ที่เป็น CEO ของบริษัทถึง 2 บริษัทจะต้องขยันและทำงานอย่างหนักแล้วละก็ต้องบอกเลยว่าคุณคิดผิดเพราะ Dorsey ดูจะเป็นคนที่เน้นไปที่ Work Life Balance มากกว่าโดยเขาเคยกล่าวเอาไว้ว่าเขาขอใช่เวลาทุกชั่วโมง ทุกวินาทีให้มีประสิทธิภาพดีกว่าการที่จะต้องขยายระยะเวลาการทำงานนั้นออกไปมากกว่า
และจากคำพูดของ Dorsey นี้ทำให้เขาพยายามจัดตารางในการทำงานของเขาให้เหมาะสมอยู่เสมอและในแต่ละวันจะแบ่งเป็นทำหน้าที่สำหรับ Twitter ในตอนเช้าและ Square ในตอนบ่าย
โดยในวันจันทร์นั้นเขาจะทำงานด้านการบริหารจัดการ วันอังคารวิศกรรมและการออกแบบ วันพุธเป็นเรื่องของการตลาดและการขยายธุรกิจ วันพฤหัสเกี่ยวกับพาร์ทเนอร์และพัฒนาซอฟต์แวร์ วันศุกร์วัฒนธรรมองกรค์ วันเสาหยุด และวันอาทิตย์วางกลยุทธ์และสัมภาษณ์งาน
ซึ่งเมื่อดูจากตารางแล้วก็เหมือนกับว่าเขาเป็นคนจัดการตารางการทำงานได้ดีเหมือนกับ CEO คนอื่นๆแต่จริงๆแล้วเวลาที่เหลือของเขานั้นถูกแบ่งไปให้กับงานอดิเรกอย่างมหาศาลเช่นกันโดยในทุกๆวัน Dorsey จะตื่นเวลาตี 5 เพื่อมานั่งสมาธิ 1 ชั่วโมง, ออกกำลังกายต่ออีก 7 นาทีและเข้าซาวน่า 20 นาทีก่อนที่จะเดินไปทำงานที่ใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 20 นาทีต่อวัน รวมถึงทุกวันอังคารเขายังเลือกทำงานจากที่บ้านอีกด้วยแม้จะเป็นช่วงก่อน COVID ก็ตาม

และด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้นักลงทุนบางคนไม่พอใจในตัวเขาเพราะพวกเขาเชื่อว่า Twitter ยังสามารถเติบโตได้มากกว่านี้และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อ Dorsey ประกาศลาออกนั้นหุ้นของ Twitter ถึงเติบโตขึ้นถึง 9% ทันทีในช่วงการเปิดขาย
และนี้คือประวัติคร่าวๆและวิธีการทำงานของ Jack Dorsey ซึ่งต่อจากนี้เราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าในอนาคต Twitter จะเดินไปในทิศทางไหนหลังจากที่ไม่มีผู้ก่อตั้งกุมบังเหียนบริษัทอีกแล้ว
