Application
17.2% ของแอปที่ใช้ระบบ Subscription เท่านั้นที่ทำรายได้เกิน 35,000 บาทต่อเดือน
นักพัฒนาแอปหลายๆเจ้าได้เปลี่ยนมาใช้ระบบ Subscription เพราะหวังว่ามันจะสร้างรายได้ระยะยาวแต่จากรายงานล่าสุดดูเหมือนมันจะไม่เป็นแบบนั้นซะแล้ว
By
ในปัจจุบันนักพัฒนาแอปหลายๆเจ้าได้เปลี่ยนมาใช้ระบบ Subscription หรือการสมัครสมาชิกแทนการซื้อขาดแบบเดิมเพราะหวังว่ามันจะสร้างรายได้ระยะยาวให้กับบริษัทแต่จากรายงานล่าสุดดูเหมือนมันจะไม่เป็นแบบนั้นซะแล้ว
RevenueCat ผู้ให้บริการชุดเครื่องมือสำหรับระบบ Subscription ออกมาเปิดรายงาน “State of Subscription Apps” ที่เป็นการเก็บข้อมูลจาก 29,000 แอปใน 18,000 นักพัฒนาที่ใช้บริการ โดยแอปเหล่านี้ทำรายได้รวมไปกว่า $6.7 พันล้านดอลลาร์จากผู้สมัครสมาชิกกว่า 290 ล้านคน
โดยในรายงานดังกล่าวเผยว่ามีแอปเพียง 17.2% เท่านั้นที่สามารถทำรายได้ต่อเดือนเกิน $1,000 ดอลลาร์ (~35,000 บาท) และหากผ่านจุดนั้นไปแล้วการทำรายได้เพิ่มขึ้นก็ดูเหมือนจะง่ายขึ้นเพราะ 59% ของแอปที่ผ่านรายได้ $1,000 ดอลลาร์ไปแล้วจะสามารถทำได้ถึง $2,500 ดอลลาร์ต่อเดือนและอีก 60% ของแอปที่ทำรายได้ถึง $2,500 ดอลลาร์จะไปถึง $5,000 ดอลลาร์ต่อเดือนแต่มีเพียงแค่ 3.5% ของแอปที่ทำได้ $5,000 ดอลลาร์ต่อเดือนเท่านั้นที่จะสามารถทำรายได้ถึง $10,000 ดอลลาร์ต่อเดือน
RevenueCat ยังเผยอีกว่าแอปที่ทำได้รายดีที่สุด 5% บนทำรายได้มากกว่าแอปที่อยู่ต่ำลงมาถึง 200 เท่าและค่าเฉลี่ยทั้งหมดของแอปที่พวกเขาเก็บข้อมูลจะมีรายได้ต่อเดือนเพียงแค่ $50 ดอลลาร์เท่านั้นหลังผ่านไป 1 ปี
แอปสุขภาพและการออกกำลังกายสามารถสร้างรายได้ได้มากที่สุดโดยทำรายได้ได้อย่างน้อย 2 เท่าเมื่อเทียบกับหมวดอื่นๆ ในขณะที่แอปเดินทางและ Productivity ทำรายได้น้อยที่สุดที่แม้ผู้ที่ทำรายได้ได้มากที่สุดในหมวดนี้แทบจะทำได้ไม่ถึง $1,000 ดอลลาร์ต่อเดือนเลย
สุดท้ายนี้แม้สถิติดังกล่าวจะเผยว่านักพัฒนาหลายๆเจ้าจะไม่สามารถทำเงินจากระบบ Subscription ได้แต่ตลาดดังกล่าวยังคงเติบโตโดยราคาเฉลี่ยที่ผู้ใช้งานยอมจ่ายต่อเดือนเติบโตขึ้น 14% จาก $7.05 เป็น $8.01 ดอลลาร์
ที่มา – MacRumors