เปิดตัว MacBook Pro 14 และ 16 นิ้ว ชิป M1 Pro และ M1 Max จอ Promotion 120Hz พร้อมกับรอยบาก

เปิดตัวกันมาแล้วสำหรับ MacBook Pro รุ่นใหม่ในงานอีเว้นท์ ‘Unleashed’ ที่มาพร้อมกับขนาด 14 และ 16 นิ้ว, จอ ProMotion 120Hz พร้อมรอยบาก, การกลับมาของพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือชิปตัวแรงอย่าง M1 Pro และ M1 Max

ชิป M1 Pro และ M1 Max

M1 Pro และ M1 Max ยังคงใช้สถาปัตยกรรม 5nm เหมือนเดิมแต่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำให้ใส่ Transistor ไปได้ถึง 33,700 ล้านหน่วยและ 57,000 ล้านหน่วยตามลำดับเมื่อเทียบกับ 16,000 ล้านหน่วยบนชิป M1

โดยทั้ง 2 มาพร้อมกับ CPU ทั้งหมด 10-core โดยแบ่งเป็นคอร์ประสิทธิภาพ 8-คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงาน 2-คอร์ ทำให้มันมีประสิทธิภาพของ CPU ที่ดีขึ้นกว่าชิป M1 สูงสุดถึง 70%

สำหรับสิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง M1 Pro และ M1 Max เลยก็คือทางด้านของ GPU ที่ทาง M1 Pro จะมีจำนวนคอร์ของ GPU ให้เลือกเพียงแค่ 14 และ 16 คอร์เท่านั้นต่างจาก M1 Max ที่มีถึง 24 และ 32 คอร์เลยทีเดียว

ประสิทธิภาพชิป M1 Pro และ M1 Max

ทาง Apple เคลมว่า M1 Pro และ M1 Max มีประสิทธิภาพของ CPU เหนือกว่าแล็ปท็อป PC 8-คอร์ถึง 1.7 เท่าเมื่อใช้พลังงานในระดับเดียวกันและใช้พลังงานน้อยกว่าแล็ปท็อป PC ถึง 70% เมื่อทำงานในระดับสูงสุด

ในส่วนของ GPU บน M1 Pro หากเลือกออปชั่นเป็น 16 คอร์ มันก็จะมีความเร็วกว่าชิป M1 ถึง 2 เท่าและเร็วกว่า GPU ออนบอร์ดบนแล็ปท็อปถึง 7 เท่าเลยทีเดียว และหากเทียบกับการ์ดแยกบนแล็ปท็อปนั้นทาง Apple เผยว่ามันกินพลังงานน้อยกว่าถึง 70% แต่ยังคงให้พลังงานที่เทียบเท่าหรือสูงกว่าด้วยซ้ำ

สำหรับ GPU ของ M1 Max นั้นเรียกได้ว่าเป็นขั้นกว่าของ M1 Pro เสียอีก โดยมันมีตัวเลือกให้เลือกถึง 32-คอร์ ทำให้มันมีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับ M1 และที่น่าสนใจคือแม้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพพอๆกับแล็ปท็อประดับ High-End บางตัวแต่มันกลับกินพลังงานน้อยกว่าถึง 100W และสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพแม้จะไม่ได้เสียบปลั๊กอยู่ด้วยก็ตาม ซึ่งต่างจากแล็ปท็อป PC ที่ประสิทธิภาพจะตกลง

ดีไซน์ใหม่

MacBook Pro รุ่นใหม่มาด้วยกันทั้งหมด 2 ขนาดได้แก่ 14 และ 16 นิ้วและตัวเครื่องมีความหนาขึ้นเมื่อเทียบกับ MacBook Pro ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 รุ่นสามารถปรับสเปคให้เหมือนกันได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น M1 Pro หรือ M1 Max โดยจะแตกต่างกันแค่ขนาดเท่านั้น

นอกจากนี้ MacBook Pro ยังมาพร้อมกับพอร์ต USB-C ที่รองรับ Thunderbolt 4 ทั้งหมด 4 พอร์ต, พอร์ต HDMi, SD Card, ช่องเสียบหูฟัง และพอร์จชาร์จ MagSafe ที่หลายๆคนคิดถึง

สำหรับตัวคีย์บอร์ดก็ได้รับการปรับปรุงด้วยเช่นกันโดยรอบนี้ Apple ได้ตัด Touch Bar ทิ้งไปแล้วและนำปุ่น Fx กลับมา ซึ่งการกลับมารอบนี้ Apple ก็ได้ปรับปรุงใหม่ให้มันกลายเป็นปุ่ม Full-size ที่ต่างจากเมื่อก่อนที่จะเป็นปุ่มเล็กๆ ซึ่งตรงนี้ยังคงมีเสียงแตกอยู่พอสมควรเพราะบางคนกลับชอบ Touch Bar

และสุดท้ายสำหรับดีไซน์ใหม่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรื่องของรอยบาก โดย MacBook Pro รุ่นใหม่มาพร้อมกับขอบจอที่บางลงทำให้ต้องมีรอยบากไว้เพื่อใส่ กล้อง, เซ็นเซอร์ตรวจจับแสง และไมโครโฟน ซึ่งถือว่าน่าเสียดายพอสมควรที่ Apple ยังไม่ใส่ Face ID มาให้แต่ยังคงให้ใช้เป็น Touch ID เหมือนเดิม

หน้าจอ

สำหรับหน้าจอของ MacBook Pro รุ่นใหม่นี้เรียกได้ว่าได้รับการปรับปรุงแบบก้าวกระโดดไม่แพ้ในด้านของชิปเลย โดยมันมาพร้อมกับจอ mini-LED เหมือนกับ iPad Pro 12.9 นิ้ว รวมถึงยังรองรับฟีเจอร์ ProMotion 120Hz ที่ปรับอัตรารีเฟรชตามคอนเทนต์ที่แสดงอยู่ด้วย

โดยจอ mini-LED บน MacBook Pro นี้สามารถแสดงผลของสีได้อย่างแม่นยำ สีดำดำสนิท มีความสว่างถึง 1,000 นิต และสามารถเร่งความสว่างสูงสุดไปได้ถึง 1,600 นิต ซึ่ง Apple เผยว่ามันคือหน้าจอที่ดีที่สุดบนโน๊ตบุ๊คเลยทีเดียว

กล้องและระบบเสียง

เชื่อได้ว่าก่อนหน้านี้ใครที่เคยใช้ MacBook อยู่คงจะบ่นกันเป็นว่าเล่นเลยสำหรับเรื่องคุณภาพของกล้อง ซึ่งเอาจริงๆมันก็ห่วยจริงๆนั้นแหละเมื่อเทียบกับราคา แต่สำหรับในรุ่นนี้นั้นทาง Apple ปรับปรุงกล้องใหม่ให้มันสามารถถ่ายภาพที่ความละเอียด 1080p ได้แล้ว

นอกจากความละเอียดกล้องที่ดีขึ้นแล้วมันยังมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นถึง 2 เท่าในสภาวะแสงน้อยอีกด้วย บวกเข้ากับการประมวลผลของ M1 Pro และ M1 Max จึงทำให้ภาพดูคมขึ้นและสีผิวดูเป็นธรรมชาติด้วย

ในส่วนของระบบเสียงนั้น MacBook Pro มาพร้อมกับลำโพงถึง 6 ตัง ซึ่งให้เสียงเบสที่ดีขึ้นถึง 80% รวมถึงยังรองรับฟีเจอร์ Spatial Audio โดยที่ไม่ต้องใส่หูฟังอีกด้วย ซึ่ง Apple เคลมว่ามันเป็นลำโพงที่ดีที่สุดในโนโน๊ตบุ๊คเลยทีเดียว

แบตเตอรี่

ในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นทาง Apple เคลมว่ารุ่น MacBook Pro 14 นิ้วสามารถใช้งานได้สูงสุด 17 ชั่วโมงในการดูวีดีโอและ 21 ชั่วโมงสำหรับ MacBook Pro ขนาด 16 นิ้ว

โดยทั้ง 2 รุ่นรอบรับการชาร์จเร็วผ่าน MagSafe ที่เพียงแค่ 30 นาทีก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้จาก 0-50% แล้ว

ส่วนในเรื่องของความร้อนเวลาใช้งานนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงเนื่องจาก Macbook Pro รุ่นใหม่มาพร้อมกับพัดลมระบายอากาศถึง 2 ตัวและฮีดไปป์ระบายอากาศขนาดใหญ่อีก 1 ตัวทำให้ไม่ต้องกังวลไปว่ามันจะร้อนจนเกินไปจนส่งผลกระทบกับแบตเตอรี่

ราคาและวันวางจำหน่าย

สำหรับ MacBook Pro ขนาด 14 นิ้ว รุ่นใหม่จะแบ่งออกเป็น 2 สเปคหลัก ดังนี้

• M1 Pro CPU 8-คอร์, GPU 14-คอร์, RAM 16GB, SSD 512GB ราคา 73,900 บาท
• M1 Pro CPU 10-คอร์, GPU 16-คอร์, RAM 16GB, SSD 1TB ราคา 89,900 บาท

สำหรับ MacBook Pro ขนาด 16 นิ้ว รุ่นใหม่จะแบ่งออกเป็น 3 สเปคหลัก ดังนี้

• M1 Pro CPU 10-คอร์, GPU 16-คอร์, RAM 16GB, SSD 512GB ราคา 89,900 บาท
• M1 Pro CPU 10-คอร์, GPU 16-คอร์, RAM 16GB, SSD 1TB ราคา 96,900 บาท
• M1 Max CPU 10-คอร์, GPU 32-คอร์, RAM 32GB, SSD 1TB ราคา 124,900 บาท

อย่างไรก็ตามทั้ง 2 รุ่นสามารถปรับสเปคต่างๆให้เหมือนกันได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น RAM, SSD หรือชิป M1 Max โดยจะมีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์และสีเงิน