Apple
Apple ยอมจ่ายเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ให้กับพนักงานหลังโดนฟ้องเรื่องนโยบายตรวจกระเป๋าหลังเลิกงาน
Apple ตกลงที่จะจ่ายเงินราว 30 ล้านดอลลาร์ (~980 ล้านบาท) เพื่อยุติคดีความที่โดนฟ้องโดยเหล่าพนักงาน Apple Store จากนโยบายการตรวจกระเป๋าหลังเลิกงาน
By
Apple ตกลงที่จะจ่ายเงินราว 30 ล้านดอลลาร์ (~980 ล้านบาท) เพื่อยุติคดีความที่โดนฟ้องโดยเหล่าพนักงาน Apple Store จากนโยบายการตรวจกระเป๋าหลังเลิกงาน
โดยเรื่องนี้เริ่มต้นในปี 2013 ที่พนักงานของ Apple Store รวมกลุ่มกันเพื่อฟ้อง Apple ในนโยบายการตรวจค้นกระเป๋าหลังเลิกงานไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าสะพาย กระเป๋าถือ กระเป๋าเอกสาร หรือ iPhone ส่วนตัวของพนักงาน
ซึ่งกระบวนการดังกล่าวบางวันกินเวลาไปกว่า 45 นาทีเลยทีเดียวหลังเลิกงานและเวลาที่เสียไปนี้ทางพนักงานกล่าวว่าพวกเขากลับไม่ได้รับค่าจากเพิ่มเติมจ้างการเสียเวลานี้เลย
หลังจากที่เกิดการฟ้องร้องในครั้งนี้ขึ้น ในปี 2015 ศาลได้ยกฟ้องในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่สุดท้ายก็เกิดการอุทธรณ์ขึ้นและในเดือนกุภาพันธ์ 2020 ศาลก็ได้กลับคำตัดสินให้ Apple ต้องจ่ายค่าจดเชยให้กับพนักงานเหล่านี้ทั้งหมด
โดยในตอนนี้ทาง Bloomberg รายงานออกมาแล้วว่า Apple เตรียมที่จะจ่ายเงินทั้งสิ้นจำนวน 29.9 ล้านดอลลาร์ให้กับพนักงาน Apple Store ที่แคลิฟอร์เนียทั้งหมดตามที่ศาลได้บังคับใช้ ซึ่งมีพนักงานที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดประมาณ 14,684 คน แต่จะได้รับไปคนละ 1,286 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้คือทาง Tim Cook ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า Apple มีนโยบายนี้ด้วย โดยเมื่อ Tim Cook รู้ครั้งแรกนั้นเขาก็ได้ทำการส่งอีเมลไปถามฝ่าย HR ว่านโยบายการตรวจกระเป๋านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่
สุดท้ายนี้ทาง Apple ได้ยกเลิกนโยบายการตรวจกระเป๋าของพนักงาน Apple Store เพื่อกันการขโมยไปตั้งแต่ปี 2015 แล้ว
ที่มา – 9to5Mac