Apple
5 สิ่งที่เราอยากเห็นจาก Apple ในปี 2022
โดยรวมแล้วในปี 2021 ถือว่าเป็นปีที่ดีทีเดียวสำหรับเหล่าสาวก Apple แต่เชื่อได้ว่า Apple คงจะไม่หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอนและนี่คือสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะได้เห็นจาก Apple ในปี 2022
By
ปี 2021 ถือว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่ Apple ทำได้ดีพอสมควรไม่ว่าจะเป็น iPhone 13 ที่มียอดขายถล่มทลายจนผลิตไม่ทันหรือการเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับชิป M1 Pro และ M1 Max ที่เป็นการกำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพและแบตเตอรี่สำหรับ Laptop ใหม่
ซึ่งโดยรวมแล้วในปี 2021 ถือว่าเป็นปีที่ดีทีเดียวสำหรับเหล่าสาวก Apple แต่เชื่อได้ว่า Apple คงจะไม่หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอนและนี่คือสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะได้เห็นจาก Apple ในปี 2022
นำ Touch ID กลับมา
หลังจากที่ Apple เปลี่ยนมาใช้ Face ID ตั้งแต่ iPhone X เป็นต้นมาก็มีทั้งคนที่ถูกใจและไม่ถูกใจพอสมควรแต่ Apple ก็ยังยืนยันที่จะไม่ใส่ Touch ID มาให้ต่อไป ซึ่งโดยรวมแล้วแม้ Face ID จะทำงานได้ดีแต่ด้วยโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนต้องใส่หน้ากากตลอดเวลานั้นการปลดล็อคไม่ได้คงจะทำให้หงุดหงิดพอสมควร
ซึ่งเอาจริงๆ Apple ก็แก้ปัญหานี้โดยให้ปลดล็อคด้วย Apple Watch ได้ขณะใส่หน้ากากแต่สำหรับคนที่ไม่มี Apple Watch และจะซื้อมาเพื่อปลดล็อคตอนใส่หน้ากากอย่างเดียวคงก็คงจะดูไม่คุ้ม ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คงจะเป็นใส่ Touch ID กลับมา
ในปัจจุบันสมาร์ทโฟน Android ต่างมีระบบสแกนนิ้วมือใต้จอกันแล้วแทบทั้งสิ้นซึ่งก็ไม่รู้เพราะเหตุใด Apple ถึงยังไม่ใส่มาให้เสียทีแม้จะมีโรคระบาดจนผู้คนต้องใส่หน้ากากก็ตาม
เอาจริงๆในปัจจุบัน Apple นั้นยังไม่ทิ้ง Touch ID ไปเสียทีเดียวเนื่องจากมันยังมีอยู่ใน iPhone SE, iPad mini รุ่นที่ 6 และ iPad Air 4 จึงหวังว่าในอนาคต Apple จะนำมันกลับมาใส่ iPhone บ้าง
USB-C บน iPhone
เอาจริงๆ USB-C บน iPhone นั้นเป็นสิ่งที่เราอยากเห็นมาตั้งนานแล้วแต่ Apple ก็ยังไม่ทำเสียทีทำให้มันก็กลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่เราอยากเห็นจาก Apple ในปี 2022 ต่อไป
โดยในปัจจุบันสมาร์ทโฟน Android แทบทุกรุ่นต่างเปลี่ยนมาใช้ USB-C กันหมดแล้วรวมถึง Laptop บางรุ่นด้วยทำให้ไม่ว่าเราจะไปไหนก็สามารถพกสายชาร์จอันเดียวไปได้เลยโดยไม่ต้องวุ่นวาย
ซึ่งเอาจริงๆไม่ใช่ว่า Apple จะดื้อด้านไม่ยอมเปลี่ยนใช้ USB-C เลยเพราะบน iPad ทุกรุ่นยกเว้น iPad รุ่นที่ 9 ในปัจจุบันก็ต่างเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แทน Lightning แล้ว ทำให้ในปัจจุบันคนที่มีทั้ง iPad และ iPhone ต่างลำบากเข้าไปใหญ่เพราะเวลาเดินทางออกนอกสถานที่เพราะต้องพกทั้งสายชาร์จ USB-C และ Lightning นั่นเอง
ในปัจจุบันมีว่า EU ได้เริ่มเสนอแนวทางให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆต้องใช้พอร์ต USB-C เป็นมาตรฐานแล้วซึ่งก็หวังว่ามันจะช่วยให้ iPhone 14 ที่จะเปิดตัวในปี 2022 นี้ทิ้งพอร์ต Lightning ไปได้เสียที
ชาร์จเร็วขึ้น
iPhone 13 ได้มีการปรับปรุงระบบชาร์จให้ชาร์จได้เร็วขึ้นโดยในรุ่น iPhone 13 Pro สามารถชาร์จได้เร็วสูงสุดที่ 23W และ iPhone 13 Pro Max ที่ 27W ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงจาก Android นั้นเรียกได้ว่าเทียบไม่ติดเลยทีเดียว
ในปัจจุบันสมาร์ทโฟน Android สามารถชาร์จได้ที่ประมาณ 50W ขึ้นไปแล้วแทบทั้งนั้นและคาดว่าในปีหน้าอาจจะมีมือถือรุ่นแรกที่สามารถชาร์จได้เร็วสูงสุดที่ 120W ขึ้นไปอีก ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า Apple จะใส่ระบบชาร์จเร็วเข้ามาบน iPhone และ iPad บ้างเพื่อเราจะได้ไม่ต้องรอถึง 2 ชั่วโมงกว่ามันจะชาร์จเต็ม
สร้างหน้าปัด Apple Watch เองได้
แม้ Apple Watch จะเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่ดีที่สุดในตอนนี้เนื่องจากมันมีฟีเจอร์ต่างๆที่ครบครันและใช้งานอย่างไร้รอยต่อกับ iPhone ได้เป็นอย่างดีแต่ข้อเสียของมันอย่างเดียวเลยคือมันไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสร้างหน้าปัดนาฬิกาเองได้
โดย Apple Watch มาพร้อมกับหน้าปัดที่มีให้เราเลือกใช้มากมายแต่เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์ของแบรนด์อื่นๆแล้วมันกลับเทียบไม่ติดเลยทีเดียวเพราะแบรนด์เหล่านั้นอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างหน้าปัดนาฬิกาของตัวเองขึ้นมาได้ทำให้มันมีหน้าปัดให้เลือกใช้มากมายตามความต้องการของผู้ใช้งาน
ซึ่งเราก็หวังว่าในปี 2022 นี้ Apple จะยอมให้ผู้ใช้งานทุกคนสร้างหน้าปัดนาฬิกา Apple Watch ได้เองเสียที่เพื่อความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใครของแต่ละคน
วางขายผลิตภัณฑ์และบริการในหลายประเทศมากขึ้น
หลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่า Apple นั้นมีผลิตภัณฑ์และบริการหลายๆอย่างที่ยังไม่พร้อมวางขายหรือให้บริการในหลายประเทศอยู่เช่น HomePod mini, Apple Pay, Apple New+ และอื่นๆที่ยังไม่มีให้บริการในประเทศไทยและอื่นๆ
ซึ่งเราก็หวังว่าในปี 2022 นี้ Apple จะขยายตลาดบริการและผลิตภัณฑ์ของตัวเองมากขึ้นในหลายประเทศเพราะเชื่อได้เลยว่ายังมีคนพร้อมที่จะใช้บริการหรือซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆของ Apple อยู่เพียงแต่มันยังทำได้ไม่สะดวกนักในตอนนี้นั่นเอง
ก็จบกับไปแล้วสำหรับสิ่งที่เราอยากเห็นจาก Apple ในปี 2022 โดยผู้อ่านท่านไหนอยากเห็น Apple ทำอะไรบ้างนอกเหนือจากนี้ในปี 2022 ก็คอมเม้นต์บอกกันได้เลย