Apple
[วิเคราะห์] Apple และ Meta จะกลายเป็นคู่แข่งกันในอนาคตในโลก Metaverse
คู่แข่งคนสำคัญของ Apple ในตอนนี้คงจะเป็น Google และ Samsung ที่ต่างขับเคี่ยวกันมาตลอดอย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้นี้คู่แข่งของ Apple อาจจะเปลี่ยนไปกลายเป็น Meta บริษัทแม่ของ Facebook แทนแล้วก็ได้
By
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาคู่แข่งคนสำคัญของ Apple ก็คงจะเป็น Google และ Samsung ที่ต่างขับเคี่ยวกันมาทั้งในตลาดสมาร์ทโฟน, ระบบปฏิบัติการ, บริการ และอุปกรณ์ภายในบ้าน แต่อย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้นี้คู่แข่งของ Apple อาจจะเปลี่ยนไปกลายเป็น Meta บริษัทแม่ของ Facebook แทนแล้วก็ได้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Apple และ Meta (Facebook เดิม) ต่างก็บาดหมางกันมาตลอดโดยเฉพาะเรื่องของความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน, โดย Tim Cook มักจะวิจารณ์ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta อยู่เสมอเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน รวมถึง Apple ยังได้ออกฟีเจอร์เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวบน iOS ที่มันกระทบกับธุรกิจโฆษณาของ Meta ด้วย
ในส่วนของ Mark Zuckerberg นั้นก็ไม่ต่างกันเพราะเขาก็ได้วิจารณ์ Apple ในกรณีของค่าคอมมิชชั่น 30% ของทุกการใช้จ่ายผ่าน App Store และฟีเจอร์เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของ Apple ที่เป็นการแสดงให้เห็นว่า Apple มีความสามารถในการผูกขาดทางการค้าและสามารถทำลายบริษัทๆหนึ่งได้เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการวิจารณ์และตอบโต้กันเบื้องหน้านี้เทียบไม่ได้เลยกับที่ทั้ง 2 บริษัทกำลังทำอยู่เบื้องหลังอย่างการพัฒนาอุปกรณ์ AR/VR เพื่อเปิดทางไปสู่ตลาดใหม่ที่ทั้ง 2 หวังจะครอบครองอย่าง ‘Metaverse’
ในช่วงที่ Meta ยังเป็น Facebook อยู่นั้นพวกเขาเป็นเพียงแค่บริษัท Social Media เท่านั้น ไม่มีฮาร์ดแวร์หรือระบบปฏิบัติการเป็นของตัวเองทำให้บริการต่างๆของพวกเขานั้นต้องพึ่งบริษัทอื่นๆอย่าง Apple หรือ Google มาตลอด ซึ่งหากทั้ง 2 บริษัทมีการปรับเปลี่ยนนโยบายไปในทางไหน Meta ก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย
และด้วยเหตุผลที่ว่ามานี้ทำให้ Meta พยายามมองหาตลาดๆที่พวกเขาสามารถเข้าไปเป็นเจ้าและสร้าง Ecosystem ของตัวเองได้อยู่ตลอด ซึ่งในตอนนี้พวกเขาก็พบแล้วว่ามันคือตลาดอุปกรณ์ AR/VR และ Metaverse ที่พวกเขาเชื่อว่ามันจะเข้ามาแทนที่สมาร์ทโฟนในอนาคต
โดย Meta เปิดเผยออกมาตรงๆเลยหลังจากที่เปลี่ยนชื่อจาก Facebook ว่าพวกเขากำลังพัฒนาและเดิมพันไปกับอุปกรณ์ AR/VR เพื่อสร้าง Metaverse ของตัวเองอยู่ โดยจุดเริ่มต้นมาจากการที่พวกเขาเข้าซื้อบริษัทพัฒนาอุปกรณ์ VR อย่าง Oculus ในปี 2014 ในราคา 2 พันล้านดอลลาร์ (~65.5 พันล้านบาท)
ในปัจจุบัน Meta ได้ส่งมอบอุปกรณ์ VR ไปแล้วหลายเครื่องอีกทั้งยังเป็นผู้นำในตลาดนี้อีกด้วย รวมถึงก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือออกมาว่าพวกเขากำลังพัฒนาอุปกรณ์ AR/VR ขั้นสูงที่มีโค้ดเนมว่า Project Cambria ซึ่งเป็นอุปกรณ์ AR/VR ที่มี CPU ที่ทรงพลัง, เซ็นเซอร์ใหม่และการใช้งานที่ล้ำหน้ากว่าอุปกรณ์ VR ในปัจจุบันอยู่ ก็อาจทำให้ Meta สร้าง Metaverse สำเร็จและกลายเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้ไม่ยากนัก
อย่างไรก็ตามเส้นทางการสร้างอุปกรณ์ AR/VR และ Metaverse ของ Meta ก็ใช่ว่าจะไม่มีคู่แข่งเลยเสียทีเดียวเพราะในช่วงที่ผ่านมาก็มีข่าวลือออกมาเช่นกันว่า Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AR/VR ของตัวเองเพื่อปูทางไปสู่ Metaverse เช่นกัน โดยนักวิเคราะห์หลายๆคนเชื่อว่ามันจะเปิดตัวอย่างเร็วที่สุดก็ในปี 2022 นี้
โดยอุปกรณ์ AR/VR ของ Apple นั้นมีข่าวลือว่ามันจะมาพร้อมกับความละเอียดหน้าจอข้างละ 3,000 ppi, ใช้จอ Micro-LED, ชิปประมวลผลขั้นสูงและการประติสัมพันธ์กับผู้ใช้งานกับอุปกรณ์ AR/VR ใหม่ที่จะปฏิวัติการใช้งานของมันเหมือนอย่างที่ Multi-Touch ทำมาแล้วบน iPhone
ซึ่งดูตามข่าวลือแล้วจะเห็นได้ว่าอุปกรณ์ AR/VR ของ Apple นั้นดูจัดเต็มพอสมควรแต่มันก็มาพร้อมกับข้อเสียอย่างนึงด้วยเช่นกันคือราคา โดยอุปกรณ์ AR/VR ของ Apple นี้คาดว่าจะมีราคาสูงถึง 2,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 65,000 บาทไม่รวมภาษีเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามแม้ว่ามันจะมีราคาสูงแต่ยังไง Apple ก็คือ Apple ที่ไม่ว่าจะออกอุปกรณ์อะไรมาก็แทบจะมีคนกรูเข้าไปซื้อกันอยู่แล้วและถ้าอุปกรณ์ AR/VR ของ Apple มันล้ำหน้าและคุ้มกับเงินที่เสียไปจริงๆไม่แน่ว่ามันอาจจะกลายเป็นผู้นำตลาดในทันทีหลังจากที่เปิดตัวเหมือนอย่าง Apple Watch เลยก็ได้หลังจากที่ตอนนี้ Oculus ของ Meta กำลังกินส่วนแบ่งการตลาดในส่วนนี้อยู่อย่างมหาศาล
สุดท้ายนี้การที่ทั้ง Meta และ Apple ต่างกำลังพัฒนาอุปกรณ์ AR/VR และ Metaverse ของตัวเองอยู่ ก็ทำให้ไม่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในอนาคตทั้งคู่จะกลายเป็นผู้เล่นใหญ่ในตลาดนี้และก็จะกลายเป็นคู่แข่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กันไปในที่สุด